Day Two: ภาพสวยในพิพิธภัณฑ์

หน้า Prado ตอนเที่ยงคิวเริ่มยาวแล้ว

หน้า Prado ตอนเที่ยงคิวเริ่มยาวแล้ว

ตื่นนอน 7 โมงเช้า ออกจากโรงแรม 9 โมงเช้า โทรกลับบ้านหาแม่ แม่บอกว่าฝนตกที่กรุงเทพฯตลอดเลย

ฟ้าที่สเปนเป็นใจให้เรามาก อยู่ตลอด 10 วัน อากาศดีเลิศ ฟ้าใส แดดสวย (ประมาณ 26-27c) มีฝนหล่นมา 1 วันที่บาร์เซโลน่า แต่ก็ตกหนักแป๊ปๆ แล้วก็หายไป เหมือนจะมาชะล้างความมึนเมาและอบายมุขจากปาร์ตี้คืนวันอาทิตย์เท่านั้นเอง

เราเริ่มลุยสเปนอย่างจริงจังวันที่ 2 นี่เอง แผนการณ์คือจะไป Museo del Prado กัน แล้วก็เดินชมวัฒนธรรมรอบๆ เมือง Prado อยู่ไม่ห่างจากโรงแรมฮาเวียร์เท่าไหร่ เดินไปสบายๆ 5 นาทีก็ถึง ขนาดเปิด 9 โมง เราเดินไปถึงประมาณ 9 โมงห้านาที คิวก็เริ่มมีให้เห็นแล้วเหมือนกัน มาเที่ยวคราวนี้ ไม่มีปัญหาให้อารมณ์เสียเรื่องคิวมาก ไม่รู้ว่าโชคดีหรือว่าอะไร ก่อนเข้าไป เกิดปัญหาเล็กน้อย เพราะผู้เขียนดันเอาขวดน้ำใส่กระเป๋าไปด้วย รปภ.เลยต้องยึดไว้ ต้องออกมารับที่หลัง

ตั้งใจไว้อย่างแน่วแน่ว่า มาเที่ยวคราวนี้จะต้องเช่า Audio Guide เพื่อให้การชมพิพิธภัณฑ์มีสาระมากขึ้น ลงทุนประมาณ 3 ยูโรแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะได้ความรู้และเข้าใจอะไรอีกเยอะมาก ก่อนมา Prado ครั้งนี้ ได้ศึกษาจากหนังสือของคุณยงพลบุลแล้วว่าต้องดูรูปอะไรบ้าง ชีวิตมีจุดหมายขึ้นมาอย่างทันตาเห็น

มา Museo del Prado ทั้งที ห้ามพลาดรูปต่อไปนี้โดยเด็ดขาด
* Las Meninas ของ Velasquez
* The Surrender of Breda ของ Velasquez เหมือนกัน
* The Garden of Earthly Delights ของ Hieronymus เป็น Triptych

แต่ละรูปก็จะมีเอกลักษณ์โดดเด่นของตัวเอง อย่างเช่น Las Meninas เนี่ย มีการวาดรูปตัว Velasquez เองไว้ในรูปด้วย หรืออย่าง Surrender of Breda ก็จะประมาณว่า หน้าตนคนในรูป สายตาที่มองออกมา หรือแม้กระทั่งมีการวาดกระดาษแปะไว้ ตรงที่ควรจะเป็นลายเซ็นต์ศิลปิน เป็นต้น อย่างไรก็ตามว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตัวเองได้รู้จัก Diego Velasquez ศิลปินชาวสเปน ซึ่งภายหลังได้ถามเพื่อนที่เรียนอาร์ท เพื่อนก็ทำหน้าตาประหลาดใจสุดๆ ว่า ไม่รู้จักได้ยังไง ออกจะดัง

LOBO !! ปิดเพื่อหลับ

LOBO !! ปิดเพื่อหลับ

เราใช้เวลาครึ่งวันที่ Prado คนค่อนข้างเยอะ ที่น่ารักก็คือมีเด็กอนุบาลไปทัศนศึกษากันหลายกลุ่ม น่ารักมากกกกกก อ่านในหนังสือ เค้าบอกว่า คนสเปนรักเด็กมากเป็นพิเศษและให้ความสำคัญกับการให้การศึกษามาก เด็กอนุบาล 100% น่ารักหมด ใส่เสื้อยืดสีขาว เขียนชื่อตัวเอง แล้วก็เดินเป็นแถวรถไฟตามกันไป มีครูประมาณ 2 คนต่อเด็ก 10 คนใน 1 กลุ่ม ฟังไม่ออกว่าเค้าสอนอะไรกัน แต่เค้าก็เลือกรูปสอนได้ดี เช่น รูปสนามเด็กเล่น หรือรูปการละเล่นต่างๆ เด็กๆ ก็ดูท่าอยากมีส่วนร่วมเต็มแก่ (เวลาครูเล่า)

อยู่สเปน 10 วัน ไม่เคยเจอเด็กไม่น่ารักเลย

แผนการณ์วัฒนธรรมของวันนี้ไม่ได้เป็นไปอย่างที่ต้องการเท่าไหร่ ตกบ่ายอยากไป Palacio Real ไปดูพระบรมมหาราชวังของสเปน แต่เกิดปิด (เพราะมีงานพิธีอะไรซักอย่าง) เราเลยเปลี่ยนแผนไปนั่งเล่นในสวนใกล้ๆ แทน ไปดูคนอาบแดด (ใส่ bikini!!) แล้วก็เลยไปดู Plaza del Espagna ไปดูอนสาวรีย์ของ Cervantes คนแต่ง Don Quixote เดินเล่นต่อที่ Gran Via เล็กน้อย แล้วก็กลับบ้าน จิ๊บเริ่มแสดงอาการอยาก shopping บ้างแล้ว แต่ยังอึดอยู่

ชุดมหัศจรรย์ อภินันทนาการจากการบินไทย พริกป่น น้ำปลา และน้ำตาล Best Survivor Kit in the World!!!

ชุดมหัศจรรย์ อภินันทนาการจากการบินไทย พริกป่น น้ำปลา และน้ำตาล Best Survivor Kit in the World!!!

ตกเย็นออกมากินอาหารญี่ปุ่นแถว Plaza Mayor ชื่อร้าน Sakura ไม่อร่อยเลย แต่อยากกินข้าว กับน้ำปลาและพริกป่น ชุดเล็กที่แจกบนการบินไทย (เยี่ยมที่สุด!!!) กินเสร็จ 2 ทุ่ม ฟ้ายังแจ้งจางปางเลยเดินเล่น ไปตามถนน Mayor เรื่อยๆ อ้าว! เจอ Palacio Real เฉยๆเลย (ทั้งๆ ที่วันนี้ก็นั่งรถใต้ดินมา)

จริงๆ เรื่องโจ๊กของการนั่งรถไฟใต้ดินจนหลงทิศว่าอะไรอยู่ตรงไหนเนี่ย มาเจอของแรงจริงๆ ที่ Barcelona คงนึกออกว่าปกติ เราก็ดูแผนที่รถไฟใต้ดินเอา ว่าจะไปที่นี่ต้องลงสถานีนี้ ออกมาก็เจอที่เลย ทั้งๆ ที่จริง เดินไปสองบล๊อก ก็อาจจะถึงแล้วก็ได้ ที่ Barcelona เป็น case ที่น่าอายและน่าเสียดาย (แทน MNG มาก) เพราะเราเพิ่งรู้คืนก่อนกลับว่า MNG Outlet ร้านนั้น อยู่ห่างจากบ้านที่นอนแค่ 1 บล๊อกเท่านั้น ย้ำว่า 1 บล๊อกเท่านั้น ทั้งๆ ที่ปกติต้องขึ้นลงรถไฟต่อกันวุ่น กว่าจะไปถึงได้ (เฮ้อ)

สะสางชีวิต เข้านอนประมาณ 4 ทุ่ม จิ๊บเริ่มเล่าว่านอนไม่ค่อยหลับ เสียงดัง…

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.