[๑๘ กันยายน ๒๕๖๔] เช้านี้รู้สึกภูมิใจในตัวเองเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะโชว์ฝีมือเปลี่ยนฝารองนั่งชักโครกได้ด้วยตัวเองแล้ว ยังได้ลองเอารถไปทดสอบ E-Check โดยใช้ตู้ตรวจด้วยน้ำมือของตัวเองหรือ Self-serve Kiosk และประสบผลสำเร็จอย่างงดงามอีกด้วย
E-Check ที่่ว่านี่คือ Emissions Check แปลเป็นภาษาไทยง่าย ๆ ก็คือการตรวจระบบการปล่อยควันเสียของรถยนต์ โดยปกติหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมในโอไฮโอจะบังคับให้เจ้าของรถยนต์นำรถไปตรวจทุก ๆ 2 ปี ตรวจผ่านแล้วให้ส่งส่วนท้ายของรายงานผลตรวจแนบไปกับแบบขอต่ออายุทะเบียนรถยนต์ รัฐบาลที่นี่เน้นความสะดวกของประชาชนเป็นหลัก (ไม่อย่างนั้นคงโดนด่าหูบาน) นอกจากจะนำรถไปตรวจที่ศูนย์ตรวจของรัฐที่มีอยู่ตามเมืองต่าง ๆ ได้แล้ว เรายังสามารถนำรถไปทำการทดสอบที่อู่ซ่อมรถใกล้บ้านที่เขารับตรวจได้อีกด้วย
หลาย ๆ ปีที่ผ่านมาฉันเองก็อาศัยอู่ซ่อมรถแถวบ้านนี่เป็นหลัก ดีที่ไม่ต้องขับไปไกลและรอไม่นาน มาปีนี้ชีวิตเกิดยากขึ้น เพราะมีงานต้องทำตลอดวัน หาเวลาแวปเอารถไปตรวจแทบไม่ได้เลย พอหาเวลาหนีงานไปได้ ปรากฏว่าอู่ที่เคยไปตรวจดันปิด ขับไปสองครั้ง ก็ปิดทั้งสองครั้ง ครั้งแรกปิดฉลองวันปีใหม่ของคนยิว รอช ฮาชานาห์ (แถวบ้านฉันมีชุมชนยิวขนาดใหญ่ เจ้าของอู่เป็นคนยิว) ครั้งที่สองปิดเนื่องในวันยมคิปปูร์ (เป็นเทศกาลการขออภัยโทษจากบาปที่ได้ทำและถือศีลอด) เจออย่างนี้ เลยคิดได้ว่าต้องเปลี่ยนแผนใหม่เสียแล้ว
พี่เอ็นโซป้ายยาว่าให้ลองไปใช้บริการด้วยตัวเองกับตู้สิ ง่ายและสะดวกมาก รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน ฉันลองทำการบ้านดู โชคดีที่เจอวิดีโอของสถานีโทศทัศน์ของ abc 5 ของคลีฟแลนด์ที่รายงานข่าวไว้เมื่อเกือบสิบปีที่แล้ว บอกขั้นตอนละเอียดทุกเม็ด ดูแล้วไม่น่าจะเกินความสามารถ ก่อนไปก็ขอให้คุณสามีชี้เป้าให้ดูว่า Data Port อยู่ตรงไหน ทำใจได้แล้วก็ขับรถไปเลย
สรุปว่าง่ายและรวดเร็วอย่างที่เขาว่าจริง ๆ ขั้นตอนง่าย ๆ ก็คือเอาเครื่องแสกนเนอร์จากตู้มาสแกนเลขตัวถังรถยนต์ (ฝรั่งเรียก VIN) เสร็จแล้วก็กรอกจำนวนไมล์ที่รถวิ่งมา เอาเครื่องอ่านข้อมูลมาเสียบกับตัวดาต้าพอร์ท สตาร์ทรถ รอประมาณ 1 นาทีให้เครื่องอ่าน เสร็จแล้วก็จะมีผลการตรวจสอบพิมพ์ออกให้จากตัวเครื่อง เสร็จสรรพใช้เวลาไปไม่เกิน 5 นาที ถ้าไปทำที่อู่ ต้องรอกว่าช่างจะว่าง เร็วสุดก็ยังต้องใช้เวลา 15 นาทีเป็นอย่างน้อย
อย่างไรก็ดี ดูท่าทางเจ้าตู้นี่จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมสักเท่าไร หลาย ๆ คนให้เหตุผลว่าปกติมีเจ้าหน้าที่ทำให้ ทำไมฉันจะต้องมาลงมือทำเองด้วย คงอีหรอบเดียวกับเครื่องชำระเงินด้วยตัวเองในซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งคนหลาย ๆ คนไม่ชอบใช้ เพราะคิดว่ายุ่งยาก สร้างปัญหามากกว่าที่จะช่วยประหยัดเวลา อย่างไรก็ดีฉันคิดว่า E-Check Self Serve Kiosk นี่ ใช้ง่ายกว่าเครื่องในซุปเปอร์มาก ซื่อ ๆ ไม่มีขั้นตอนซับซ้อน
ตอนนี้เริ่มติดใจตู้ตรวจสภาพรถด้วยตัวเองแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคราวหน้าจะยังต้องเอารถไปทดสอบไหม ข่าวบอกว่าสภาผู้แทนราษฎรของรัฐฯ (นำโดยผู้แทนจากพรรครีพับลิกัน) อาจจะขอให้ยกเลิกการตรวจ E-Check ละ เพราะตั้งแต่ตั้งโครงการนี้ในปี 1996 มลพิษทางอากาศก็บรรเทาลงไปเยอะมากโขแล้ว และกฏนี้ยังเป็นการผลักภาระให้กับคนรายได้น้อยที่ต้องหาทางซ่อมเครื่องยนต์หรือซื้อรถใหม่เพื่อให้รถผ่านการทดสอบด้วย